10
ต.ค.
65
มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี หน่วยแพทย์อาสามูลนิธิจักษุ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอีกหลายหน่วยงานในจังหวัดน่านที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการรณรงค์ผ่าตัดต้อกระจก น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปีที่ 122
นายเอนก บัวนาเมือง กรรมการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมในพิธีเปิดตาผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจก โครงการรณรงค์ผ่าตัดต้อกระจก น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปีที่ 122 ณ วัดราษฎร์บำรุง ตำบลทุ่งช้าง อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน
โดยในวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2565 เป็นวันเปิดตาผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจกสำเร็จลุล่วง หลังจากก่อนหน้านี้มีการคัดกรองผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาของจังหวัดน่าน เพื่อทำการผ่าตัด ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม 2565 ณ โรงพยาบาลทุ่งช้าง จำนวน 217 ราย นอกจากผู้ป่วยจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลทุ่งช้าง ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่งได้รับการรักษา ทั้งผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้รับการส่งต่อไปรับการรักษาในโรงพยาบาลหลายแห่ง และอีกส่วนหนึ่งที่จะได้ทำการรักษาในระยะต่อไป
จังหวัดน่านเริ่มการคัดกรองผู้ป่วยพื้นที่อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอสองแคว อำเภอเชียงกลาง และอำเภอใกล้เคียงของจังหวัดน่าน มีการคัดกรอง จำนวน 2 ครั้ง คือ วันที่ 25-26 สิงหาคม และวันที่ 23-24 กันยายน ที่ผ่านมา
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยหน่วยแพทย์อาสามูลนิธิจักษุเชียงใหม่จักษุแพทย์ แพทย์ในพื้นที่ พยาบาลจิตอาสา โรงพยาบาลน่าน โรงพยาบาลทุ่งช้าง โรงพยาบาลเชียงกลาง รวมทั้งจังหวัดน่าน สำนักงานสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ อสม. กองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอทุ่งช้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพราน จิตอาสาชาวน่าน ภาคเอกชนและมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ทำให้การดำเนินงานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงตั้งแต่การคัดกรอง จนถึงการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อการผ่าตัด และการรักษา
นายเอนก กล่าวว่าโครงการฯ ดังกล่าวนอกจากจะตระหนักถึงความสำคัญของการมองเห็นอันเป็นปัจจัยสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีโอกาสในการพัฒนาตนเอง สังคมและประเทศชาติ ไปสู่ความยั่งยืน
ยังเพื่อเป็นการสนองพระราชปณิธานในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงมีพระดำรัสว่า “... ขอให้ทำเพื่อช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยที่อยู่ห่างไกล ช่วยด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน ช่วยให้เขาได้คลายจากความทุกข์ได้บ้าง...” และยังเป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป ตามพระปฐมบรมราชโองการ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งทางมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ได้ร่วมกับจักษุแพทย์อาสา จัดทำโครงการผ่าตัดต้อกระจกครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 10 แล้ว มีผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดตาไปแล้ว รวมกว่า 800 คน
จังหวัดน่าน ถือว่าเป็นพื้นที่ที่สำคัญมากเพราะ เป็นพื้นที่ต้นแบบแห่งแรกของมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ที่ได้ร่วมกับประชาชนจังหวัดน่าน ดำเนินการพัฒนาโดยการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริ เมื่อ 13 ปีก่อน ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในจังหวัดน่าน และพี่น้องประชาชน รวมทั้งได้รับความรัก และความเชื่อถือและความศรัทธา ทำให้การทำงานของมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ประสบความลุล่วง มาได้อย่างดีจนถึงวันนี้
ด้านรศ.นพ.ดิเรก ผาติกุลศิลา หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหน้าทีมจักษุแพทย์ผ่าตัด กล่าวว่าโรคต้อกระจก เป็นโรคอันตรายอันดับ 1 ที่เป็นสาเหตุให้ตาบอด พบมากในคนช่วงอายุ 60-70 ปี อาการเริ่มต้นตาจะมัวทีละนิด อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพ
ปกติผู้ที่เป็นโรคต้อกระจกมีสิทธิที่จะรักษาในโรงพยาบาล แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ขาด 4 ปัจจัยในการเข้ารับการรักษา ได้แก่ ขาดลูกหลานพาไป ขาดเงิน ขาดรถรับส่งและขาดเวลา เพราะการรักษาต้องมีหลายขั้นตอนตั้งแต่การตรวจคัดกรอง การนัดผ่าตัด การพักฟื้นในโรงพยาบาล การตรวจอาการหลังผ่าตัดสองสัปดาห์ และ1เดือนหลังจากผ่าตัด
ซึ่งการออกหน่วยโครงการรณรงค์ผ่าตัดต้อกระจกในครั้งนี้จะช่วยลดขึ้นตอนดังกล่าว ทำให้ผู้ป่วยได้รับโอกาสรักษาที่ดี และทางคณะจักษุแพทย์ฯ พอได้ทราบว่าจะมีโครงการนี้ ทุกคนต่างสมัครใจเข้าร่วมกันอย่างเต็มใจและรู้สึกอิ่มเอมใจ ที่ได้ช่วยคนที่มีปัญหาด้านสายตาให้กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง
นายบุญทวี เสียงกอง อยู่บ้านประดู่ ต.และ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน กล่าวว่า มีปัญหาสายตาจากการฉีดพ่นยาพืชในสวนมา 4 เดือนแล้วได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลและได้รับการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลน่านและรอรับการผ่าตัด โอกาสดีทราบว่ามีโครงการทำตามาบริการที่โรงพยาบาลทุ่งช้างจึงเข้ารับการคัดกรองและได้รับการผ่าตัดในวันนี้ หลังจากนี้คงใช้ชีวิตปกติและกลับมาทำเกษตรได้เหมือนเก่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยจัดโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากๆ
นางขันคำ เมฆคะ อาชีพค้าขาย อาศัยอยู่ที่บ้านป่าแดง ต.เปือ ต.เชียงกลาง จ.น่าน อายุ 74 ปี กล่าวว่า มีปัญหาเรื่องสายตามา 4 ปี ได้ทราบข่าวจากเพื่อนในหมู่บ้านว่าจะมีโครงการทำตา เลยเข้ารับการคัดกรองและได้รับการนัดหมายให้มาเข้าผ่าตัดในวันที่ 8 ตุลาคม 2565 รู้สึกดีใจและขอบคุณที่ทุกหน่วยงานได้จัดโครงการ จะได้ใช้ชีวิตปกติ