พระราชกรณียกิจ
พระราชกรณียกิจ
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ทั้งการเสด็จพระราช ดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยิ่งเจริญพระชนมายุมากขึ้น พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติก็เพิ่ม มากขึ้นนานัปการ ทั้งที่ทรงปฏิบัติแทนพระองค์ และทรงปฏิบัติในส่วนพระองค์เอง พระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชหฤทัยอันมุ่งมั่น เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทยตลอดมา สมดังพระราชดำรัสที่ทรงปฏิญาณไว้ ทั้งมีพระราชดำรัส ย้ำถึงพระราชปณิธานที่จะทรงงานเพื่อ ความผาสุกของอาณาประชาราษฎร์อีกครั้ง ในงานสโมสรสันนิบาตที่รัฐบาลจัดถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่ได้ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์เป็นสยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕ ความว่า
ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งปวง ซึ่งได้ทรงปฏิบัติโดย ไม่เห็น แก่ความเหนื่อยยากลำบากพระวรกายนั้น ล้วนเป็นไปเพื่อสร้างสรรค์ความผาสุกสงบ แก่ประชาชน นำความเจริญไพบูลย์และความมั่นคงมาสู่ประเทศ ทั้งพระราชกรณียกิจ ด้านการ แพทย์และสาธารณสุข การศึกษา การเกษตร การสังคมสงเคราะห์ การทหารและ การบิน การศาสนา การกีฬา และการต่างประเทศ เป็นอาทิ
พระราชกรณียกิจด้านการทหาร
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำรงพระยศ ทางทหารของ ๓ เหล่าทัพ คือ พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการทหาร โดยทรงเข้าร่วม ปฏิบัติการรบในหลายพื้นท ี่รวมทั้งการคุ้มกันพื้นที่บริเวณรอบค่าย ผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่เขาล้าน จังหวัดตราดด้วย ซึ่งแม้เป็นพระราชภารกิจที่ต้องทรงเสี่ยงภยันตราย แต่ด้วยความที่ทรงเป็นชาติชายทหาร และเป็นพระราชภารกิจเพื่อความผาสุกของพสกนิกรและเพื่อ มนุษยธรรมต่อผู้ประสบทุกข์ยากจึงทรงปฏิบัติพระราชภารกิจดังกล่าว โดยเต็มพระราชกำลัง
พระราชกรณียกิจด้านการบิน
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำรงพระยศทางทหารของ ๓ เหล่าทัพ คือ พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้าน การทหาร โดยทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบในหลายพื้นที่ รวมทั้ง การคุ้มกันพื้นที่บริเวณรอบค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่เขาล้าน จังหวัดตราดด้วย ซึ่งแม้เป็นพระราชภารกิจที่ต้องทรงเสี่ยงภยันตราย แต่ด้วยความที่ทรงเป็นชาติชายทหาร และเป็น พระราชภารกิจเพื่อความผาสุกของพสกนิกร และเพื่อ มนุษยธรรมต่อผู้ประสบทุกข์ยาก จึงทรงปฏิบัติพระราชภารกิจ ดังกล่าวโดยเต็มพระราชกำลัง
พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบดีว่า เยาวชนในถิ่นทุรกันดารยังด้อยโอกาสในการศึกษา พระราชทาน พระราชทรัพย์สนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการ จัดสร้างโรงเรียน ระดับมัธยมศึกษาในส่วนภูมิภาค ๖ แห่งนอกจากเสด็จพระราช ดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ด้วยพระองค์เอง และทรงรับโรงเรียน ไว้ในพระราชูปถัมภ์แล้ว ยังพระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษา อันทันสมัย เช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ วีดิทัศน์ พระราชทาน คำแนะนำ และทรงส่งเสริมให้โรงเรียนดำเนินโครงการอันเป็น ประโยชน์แก่นักเรียน เช่น โครงการอาชีพอิสระ เพื่อให้เยาวชน ใช้ความรู้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนและครอบครัวได้เมื่อจบการศึกษา
พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักว่าสุขภาพพลานามัยอันดีของประชาชนเป็นปัจจัย สำคัญของการสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลอันมีคุณภาพ ไว้เป็นพลังในการพัฒนาประเทศ จึงทรงสนพระราชหฤทัยในการ ประกอบพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข เมื่อเสด็จพระราชดำเนินออกทรงเยี่ยมราษฎรในส่วนภูมิภาค จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะแพทย์ที่ตามเสด็จ ตรวจรักษาโรคแก่ประชาชนและทรงรับผู้ป่วยที่ยากไร้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ตลอดมา
พระราชกรณียกิจด้านการพระศาสนา
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรงแสดงพระองค์
เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๙ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาที่ประเทศ
อังกฤษและมีพระราชศรัทธาทรงออกผนวชในพระบวรพระพุทธ
ศาสนา เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๑
ระหว่างทรงผนวช ทรงศึกษา
และปฎิบัติพระธรรมวินัยอย่าง
เคร่งครัด นอกจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไป
ปฏิบัติพระราชกิจทางศาสนาเป็นประจำเสมอ เช่น ทรงเปลี่ยน
เครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตน
ศาสดาราม ตามฤดูกาลเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไป
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น
วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬห บูชา วันเข้าพรรษา และ
การถวายกฐินหลวงตามวัดต่าง ๆ เป็นต้น
พระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศ
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระวิริยะ อุตสาหะประกอบพระราชกรณียกิจสำคัญ ๆ ในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ เสมอมา ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเยือนมิตรประเทศ ทั่วทุกทวีปอย่างเป็นทางการเป็นประจำทุกปี ปีละหลายครั้ง เช่น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนประเทศอิตาลี และทรงเฝ้าฯ พระสันตะปาปาเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๕
พระราชกรณียกิจด้านการกีฬา
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจทั้งในฐานะผู้แทนพระองค์และในส่วน ของพระองค์เองนานัปการ เช่น การพระราชทานไฟพระฤกษ์ กีฬา เยาวชนแห่งชาติพระราชทานพระราชวโรกาสให้นักกีฬาไทยผู้นำ ความสำเร็จนำเกียรติยศมาสู่ประเทศชาติเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม รับพระราชทานพร และ ทรงแสดงความชื่นชมยินดี ซึ่งนักกีฬาของไทยต่างสำนึกในพระมหา กรุณาธิคุณมีความปลาบปลื้มในสิริมงคลและมีขวัญกำลังใจที่จะนำ ความสำเร็จและนำเกียรติยศมาสู่ตนเอง สู่วงศ์ตระกูล และประเทศ ชาติต่อไป
พระราชกรณียกิจด้านการสังคมสงเคราะห์
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาห่วงใยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนที่ด้อยโอกาสและขาดแคลน ได้ทรงพระ อุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมชุมชนแออัดใน กรุงเทพฯหลายแห่ง เช่น ชุมชนแออัดเขตพระโขนงเขตคลองเตย เขตยานนาวา เป็นต้น ทรงพระกรุณาพระราชทานเครื่องอุปโภค บริโภค เครื่องกีฬา เครื่องดับเพลิง โปรดเกล้าฯ ให้กรมทหารใน บังคับบัญชาของพระองค์ ร่วมกับประชาชนพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทั้งยังพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนโครงการของชุมชน เช่น โครงการพัฒนาเด็กเล็กที่ขาดแคลน โครงการปราบปราม ยาเสพติดในหมู่เยาวชนชุมชนแออัดคลองเตย เพื่อให้เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสเหล่านั้นเติบโตเป็นพลเมืองดีและเป็นทรัพยากร บุคคลที่มีคุณค่าในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
พระราชกรณียกิจด้านการเกษตร
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมด้านการเกษตรกรรมอันเป็น อาชีพหลักของปวงชนชาวไทยตลอดมา เช่น เสด็จพระราชดำเนิน แทนพระองค์ในการพระราชพิธีพืชมงคล ณ วัดพระศรีรัตน ศาสดารามเป็นประจำ
พระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงดำเนินตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ที่ทรงให้ความสำคัญกับ “น้ำ” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ ของพสกนิกรโดยถ้วนทั่ว